ช่วงนี้อากาศบ้านเราเต็มไปด้วยฝุ่นมลพิษ PM 2.5
โดยมีค่ามลภาวะทางอากาศสูงมากติดอันดับต้นๆ ของโลก ฝุ่น PM 2.5
ฝุ่นมลพิษนี้ทำร้ายร่างกายเราอย่างไรบ้าง?
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?
คือฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากๆ (ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือไมโครเมตร)
(PM ย่อมาจาก Particulate Matters) ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ เราจึงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากๆ ในอากาศ
จะดูคล้ายกับมีหมอกหรือควันคนส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่ามลพิษที่กระจายอยู่ในอาคารนั้น
ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่ามลพิษในสิ่งแวดล้อมภายนอกอาคาร
ผลจากการวิจัยมลพิษภายในอาคารถูกจัดอันดับ 1 ใน 5 ของมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
ที่ส่งผลต่อสุขภาพมากที่สุด (แหล่งที่มา : U.S.EPA) อนุภาค หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5μm
หรือที่เรียกว่า “PM 2.5” มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (เส้นผมคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 100 ไมครอน
เทียบเท่ากับเล็กกว่าเส้นผม 40 เท่า) มีขนาดเล็กกว่าเซลล์ของมนุษย์ สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือด
ซึ่งฝุ่นละอองเหล่านี้ ไม่สามารถย่อยสลายได้จะเข้าไปสะสมในร่างกาย จนทำให้เป็นอันตรายได้
ฝุ่น PM 2.5 มีผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?
ในวันที่อากาศไม่ดี มีค่าฝุ่นมลพิษสูง หลายคนคงรู้สึกแสบตา แสบจมูก เจ็บคอ
ผลกระทบต่อ สุขภาพระยะยาว คออักเสบ ติดเชื้อ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ มะเร็งปอด
ระบบที่มีผลกระทบมาก คือระบบทางเดินหายใจ เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป
จะรู้สึกแสบจมูก ไม่สบาย ไอและมีเสมหะได้ ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคภูมิแพ้, โรคปอด
(เช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง) ต้องระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นนี้จะทำให้โรคกำเริบได้ง่าย
ในระยะยาวมีผลทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดและ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดได้
แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับมลพิษทางอากาศราว 7 ล้านคน
จากหลักฐานที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าอนุภาคขนาดเล็กช่วยกระตุ้นให้เป็นโรคอัลไซเมอร์
ฝุ่นละอองมีผลถึง 25% ของผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอด
ฝุ่นละอองมีผลถึง 15% ของผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง
เราจะป้องกัน และดูแลตนเองอย่างไรดี?
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรสวมใส่หน้ากากชนิดที่สามารถกันฝุ่น PM 2.5 ได้
และใส่ให้ถูกวิธีรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ควรอยู่ในบ้านหรือในอาคารที่มีเครื่องฟอกอากาศชนิดที่มี HEPA filter